วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประเทศโรมาเนีย

Romania




       บูคาเรสต์ (อังกฤษ: Bucharest; โรมาเนีย: Bucuresti) เป็นเมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศโรมาเนีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา เมืองบูคาเรสต์มีระบุไว้ในเอกสารมาตั้งแต่ปี 1459 จากนั้นก็หายไปอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง จนกลายมาเป็นเมืองหลวงของโรมาเนียในปี 1862เป็นเมืองมีจุดแข็งในเรื่องของศูนย์กลางของสื่อมวลชนโรมาเนียวัฒนธรรมและศิลปะมีสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบที่รวมสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์,สถาปัตยกรรมหลังสงคราม,เป็นต้น ความงามด้านสถาปัตยกรรมของเมืองทำให้เมืองมีชื่อเล่นว่า "ปารีสน้อยแห่งตะวันออก" (Micul Paris) และถึงแม้อาคารหลายหลังและเขตในศูนย์กลางประวัติศาสตร์จะถูกทำลายในช่วงสงครามหรือแผ่นดินไหว รวมถึงโครงการปรับปรุงโครงสร้างเมืองของนิโคไล เชาเชสกู แต่ก็มีอาคารสวยงามหลงเหลืออยู่ ในปีหลัง ๆ เมืองมีความรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม จากข้อมูลเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2009 บูคาเรสต์มีประชากรอยู่ราว 1,944,367คนเขตเมืองขยายเกินไปมากทำให้ปัจจุบันเมืองบูคาเรสต์และมีประชากรอยู่ 2 ล้านคน บูคาเรสต์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของสหภาพยุโรป นับจากจำนวนประชากรในเขตจำกัดเมือง 
         ในด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นเมืองที่เจริญมั่งคั่งที่สุดในประเทศโรมาเนีย และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการขนส่งของยุโรปตะวันออก เป็นเมืองหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในโรมาเนีย เป็นเมืองที่ครอบคลุมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการประชุม การศึกษา งานทางด้านวัฒนธรรม ช็อปปิ้งอาเขต และบริเวณสันทนาการ


Brasov,Strada Sforii
 


          หากมาถึงราซอฟแล้วไม่ได้พาตัวเองไปที่ถนน Sforii ว่ากันว่าเท่ากับมาไม่ถึงบราซอฟ ถนนสายนี้นอกจากจะแคบที่สุดในโรมาเนียแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นถนนสายที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอีกด้วย เพราะสร้างมานานกว่าพันปีแล้ว ในวันนี้สองข้างทางของถนน Sforii เต็มไปด้วยแกลเลอรี่ศิลปะที่น่าชมมากมาย ย่านนี้ยังถือเป็นย่านที่ศิลปินชาวบราซอฟมักออกมาประชันฝีมือกันอยู่เสมอ การมาชมความงามของถนนสายนี้จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมการเดินทาง เพื่อให้ได้ชื่อว่าได้มาถึงบราซอฟแล้วจริง ๆ

Peles Castle



       ปราสาทเปเลส  ตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ กลางป่าสน บนเทือกเขาคาร์เปเทียน ถือเป็นปราสาทที่สวยงามโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง  ในยุโรปตะวันออก  ตัวอาคารจะมีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ แต่ดูเหมือนปราสาทแห่งนี้จะได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ของประเทศเยอรมนีมากที่สุด ภายในปราสาทตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ มีการใช้ไม้แกะสลักงดงามอยู่มากมาย เป็นปราสาทที่รวบรวมงานศิลปะจากประเทศต่าง ๆ ในยุโรป  สร้างขึ้นโดยเจ้าชายคาลอสที่ 1 กษัตริย์แห่งโรมาเนีย ในสมัยศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อน มีการตกแต่งภายในอย่างหรูหรางดงาม อาทิ ห้องตุรกี ที่สร้างไว้เพื่อรับรอง แขกบ้านแขกเมือง ที่มาจาก ตุรกี ในสมัย ออตโตมัน อีกหนึ่งความปราณีตของปราสาทเปเลส  ภายในปราสาทจะมีห้องต่างๆ มากถึง 168 ห้อง แต่คงมีเพียง 35 ห้องเท่านั้น ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมด้านนอก จะมีรูปปั้น คนสำคัญ วางไว้เป็นระยะ รวมถึงรูปปั้นของเจ้าชายคาลอสผู้สร้างปราสาท


Bran Castle




      ปราสาทบราน หรือ ปราสาทแดร็กคิวล่า ปราสาทนี้ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่บนภูเขาเพื่อเป็นที่ป้องกันระหว่างชายแดนแคว้นวอลลัคเทียและทรานซิลวาเนีย

      ปราสาทบรานเป็นปราสาทหินทาสีขาวหม่นสูง 200 ฟุต ตั้งอยู่บนผาหินสูงจนสามารถมองเห็นเมืองบรานได้ทั้งเมือง มีหอคอย มีห้องหลายห้อง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

      ส่วนที่ปราสาทแห่งนี้โด่งดังในฐานะที่พักของแดร็กคูล่านั้น ก็เป็นเพราะหนังสือ Dracula ของนักเขียนชาวไอริชที่ชื่อ Bram Stoker ที่ใช้ปราสาทบรานแห่งนี้เป็นฉากของนวนิยาย และต่อมาฮอลลีวู้ดได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ทำให้ชื่อเสียงของแดร็กคูล่า ค้างคาวผีดูดเลือดที่นอนช่วงกลางวันในโลงหิน บนปราสาททรงสูง และเที่ยวออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

      แต่เจ้าชาย วแลด เทเปส (Vlad Tepes)ผู้เคยครอบครองปราสาทเห็นนี้ ไม่ได้เป็นค้างคาวผีที่ออกล่ามนุษย์เพื่อดูดเลือด แต่เป็นนักรบที่เก่งกาจ ดุร้าย เหี้ยมโหด และกระหายสงคราม จนเป็นที่เลื่องลือว่ากระหายเลือดกิตติศัพท์ความโหดร้ายของเจ้าชายมาจากพฤติกรรมแปลกๆ ของพระองค์ เช่น เมื่อจับศัตรูได้จะทรมานศัตรูด้วยการจับใส่ลงไปในหม้อน้ำมันที่ตั้งไฟจนเดือดบ้างเผาทั้งเป็นบ้าง 
และวิธีทรมานศัตรูที่เหี้ยมโหดที่สุดก็คือ เอาไม้หลาวเสียบที่ก้นของศัตรูทะลุไปจนถึงไหล่ แล้วปักไม้เสียบศัตรูไว้ที่หน้าปราสาทจนกว่าจะตายคาไม้หลาว นอกจากนั้นเจ้าชายยังชอบกินอาหารที่เป็นเนื้อสดๆ และกินต่อหน้าศัตรูที่ดิ้นรน กระเสือกกระสนด้วยความเจ็บปวดทรมานบนไม้หลาวนั้นอีกด้วย

      แต่กระนั้นปัจจุบันเพราะชื่อเสียงของแดร๊กคูล่านี่แลหะที่นำเงินมหาศาลจากการเที่ยวชมปราสาทมาให้คนโรมาเนีย และปราสาทบารนก็ยังถือว่าเป็นปราสาทที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง


Black church




       โบสถ์ดำ หรือที่รู้จักในนาม "BLACK CHURCH" ที่มีชื่อเสียง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 ซึ่งจัดเป็นโบสถ์ที่มีศิลปะโกธิคที่ใหญ่ที่สุด สาเหตุที่เรียกว่าที่เรียกว่าโบสถ์ดำ ก็เพราะว่าลักษณะภายนอกที่ถูกไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ.1689 ทำให้คราบดำจากเขม่าได้ไปเกาะที่ผนังโบสถ์ จนเป็นสีดำทะมึน ทางรัฐบาลประเทศโรมาเนียจึงทิ้งให้อยู่ในลักษณะนี้ เพื่อให้เป็นจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ ภายในโบสถ์มีพรมที่ถักทอด้วยมือของชาวเติร์กแขวนอยู่ทั่วระเบียงโดยรอบ ซึ่งทำให้มีสีจัดจ้านและสามารถช่วยทำให้โบสถ์มีสีสันสดใสขจัดความมืดภายในโบสถ์ไป และนอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระแม่มารีและนักบุญคนอื่นๆตั้งอยู่แทบทุกแห่ง ภายในโบสถ์


Cozia Monastery




       วิหารโคเซีย ได้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1386 ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมที่เกี่ยวกับพระเยซูและนักบุญในคริสตศาสนามากมาย ซึ่งมีความงดงามมาก และเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว และในปัจจุบันวิหารแห่งนี้ยังคงใช้ในการประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์และศาสนกิจของ ผู้ที่มานับถือศาสนาคริสต์


Palace of Paliament



            อาคารรัฐสภา อาคารนี้ถือเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป แต่ถ้าในระดับโลกแล้วก็เป็นรองเพียงแค่ตึกเพนตากอนของอเมริกาเท่านั้น อาคารนี้มีห้องมากว่า 2,000ห้อง ใช้เวลาสร้างนานถึง 5 ปี โดยใช้สถาปนิกถึง 700 คน และแรงงานถึง 30,000 คน ผลัดกันทำงานเป็นช่วงเวลา 3 กะ อาคารนี้มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะภายนอกที่สูงใหญ่ตระการตา


 National Treasure Of Romania



         พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หรือ พิพิธภัณฑ์สมบัติแห่งชาติโรมาเนีย “NATIONAL TREASURE” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความเก่าแก่เป็น สถานที่ที่เก็บสมบัติอันล้ำค่าของพระมหากษัตริย์แห่งโรมาเนียในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎเพชร, เครื่องประดับเพชรและอัญมณีล้ำค่าต่างๆ ตลอดจนเครื่องราชอิสริยภรณ์ เป็นต้น ในแต่ละยุคสมัย ทำให้นักท่องเที่ยว ได้ความรู้ เกี่ยวกับประเทศโรมาเนียมากขึ้นจากการเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

Muzeul Satului, Herastrau Park



          พิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน  เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของยุโรป ตั้งอยู่ริมทะเลสาบภายในสวนสาธารณะ Herastrau Park ณ กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ซึ่งมีสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่สร้างด้วยไม้ ดิน และหิน เรียงรายอยู่ริมทะเลสาบ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเห็นเป็นจุดเด่นชัดของ พิพิธภัณฑ์
          ภายในพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย บ้านเรือนอายุนับร้อยปีจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศโรมาเนีย ซึ่งได้ถูกรื้อถอนและ นำมาประกอบขึ้นใหม่บนพื้นที่กว่าแสนตารางเมตร แบ่งเป็น ๖ เขตตามภูมิภาคท้องถิ่น ได้แก่ Transylvania, Banat, Muntenia, Oltenia, Dobrogea และ Moldova ลักษณะของบ้านในแต่ละเขตจะสอดคล้องตามสภาพภูมิอากาศของแต่ละท้องถิ่น หลังคาบ้านในเขตภูเขาที่หนาวเย็นอย่าง Transylvania จะมุงด้วยฟางและสูงชันเพื่อป้องกันไม่ให้หิมะและฝนค้างบนหลังคา ส่วนบ้านใน Dobrogea ซึ่งเป็นเขตอบอุ่นบริเวณลุ่มแม่น้ำดานูบและทะเลดำ จะมุงด้วยไม้แต่จะไม่ชันมาก
         นอกจากนี้พื้นที่ในแต่ละส่วนจะแสดงถึงวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ท้องถิ่นผ่านองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบบ้านเรือน รั้ว ซุ้มประตู ที่มีลายแกะสลัก โบสถ์ โรงนา เพิงเก็บหญ้าแห้งคอกสัตว์ เครื่องมือทำไร่ทำนา และอุปกรณ์ผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคตามภูมิปัญญาท้องถิ่นเช่น เตาผิง กังหัน บ่อน้ำ เครื่องมือทอผ้า อุปกรณ์ผลิตชีส (เนยแข็ง)
            เมื่อนักท่องเที่ยวได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมในบ้านแต่ละหลัง จะเห็นเครื่องเรือนที่จัดวางอยู่ ทั้งหม้อ ไห พรม ผ้าห่ม ผ้าทอ ชั้นวางจานชาม รวมทั้งของตกแต่ง มีรายละเอียดและเอกลักษณ์น่าสนใจไม่แพ้รูปแบบอาคาร แสดงถึงการผสมผสานอันลงตัวระหว่างความสวยงามและการใช้งาน บ้านโบราณและสิ่งจัดแสดงต่างๆ เหล่านี้ได้มาจากการศึกษาค้นคว้าและรวบรวมเป็นเวลาราว ๑๐ ปี ของศาสตราจารย์ Dimitrie Gusti จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๙ จึงได้เริ่มสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์นี้ขึ้น นับว่าเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมและประเพณีที่น่าสนใจมาก นอกจากส่วนจัดแสดงทั่วไปแล้ว บางโอกาสยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การสาธิตงานฝีมือท้องถิ่น กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ความรู้ในการเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ ตลอดจน ได้ความประทับใจกลับไปไม่รู้ลืม

Romania Glass Street



              เป็นถนนที่มีร้านค้าขายเครื่องแก้วมากมาย ทั้งเครื่องแก้วที่ผลิตจากการเป่า, คริสตัล, เครื่องแก้วที่ได้จากการเจียรนัย  ในรูปแบบหลากหลายทั้งสไตล์โมเดิลและสไตล์โบฮีเมียนที่มีชื่อเสียง แต่ละร้านมีสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นสินค้าตกแต่งบ้านหรือของฝากมากมาย





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น