วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประเทศโรมาเนีย

Romania




       บูคาเรสต์ (อังกฤษ: Bucharest; โรมาเนีย: Bucuresti) เป็นเมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศโรมาเนีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา เมืองบูคาเรสต์มีระบุไว้ในเอกสารมาตั้งแต่ปี 1459 จากนั้นก็หายไปอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง จนกลายมาเป็นเมืองหลวงของโรมาเนียในปี 1862เป็นเมืองมีจุดแข็งในเรื่องของศูนย์กลางของสื่อมวลชนโรมาเนียวัฒนธรรมและศิลปะมีสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบที่รวมสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์,สถาปัตยกรรมหลังสงคราม,เป็นต้น ความงามด้านสถาปัตยกรรมของเมืองทำให้เมืองมีชื่อเล่นว่า "ปารีสน้อยแห่งตะวันออก" (Micul Paris) และถึงแม้อาคารหลายหลังและเขตในศูนย์กลางประวัติศาสตร์จะถูกทำลายในช่วงสงครามหรือแผ่นดินไหว รวมถึงโครงการปรับปรุงโครงสร้างเมืองของนิโคไล เชาเชสกู แต่ก็มีอาคารสวยงามหลงเหลืออยู่ ในปีหลัง ๆ เมืองมีความรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม จากข้อมูลเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2009 บูคาเรสต์มีประชากรอยู่ราว 1,944,367คนเขตเมืองขยายเกินไปมากทำให้ปัจจุบันเมืองบูคาเรสต์และมีประชากรอยู่ 2 ล้านคน บูคาเรสต์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของสหภาพยุโรป นับจากจำนวนประชากรในเขตจำกัดเมือง 
         ในด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นเมืองที่เจริญมั่งคั่งที่สุดในประเทศโรมาเนีย และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการขนส่งของยุโรปตะวันออก เป็นเมืองหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในโรมาเนีย เป็นเมืองที่ครอบคลุมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการประชุม การศึกษา งานทางด้านวัฒนธรรม ช็อปปิ้งอาเขต และบริเวณสันทนาการ


Brasov,Strada Sforii
 


          หากมาถึงราซอฟแล้วไม่ได้พาตัวเองไปที่ถนน Sforii ว่ากันว่าเท่ากับมาไม่ถึงบราซอฟ ถนนสายนี้นอกจากจะแคบที่สุดในโรมาเนียแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นถนนสายที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอีกด้วย เพราะสร้างมานานกว่าพันปีแล้ว ในวันนี้สองข้างทางของถนน Sforii เต็มไปด้วยแกลเลอรี่ศิลปะที่น่าชมมากมาย ย่านนี้ยังถือเป็นย่านที่ศิลปินชาวบราซอฟมักออกมาประชันฝีมือกันอยู่เสมอ การมาชมความงามของถนนสายนี้จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมการเดินทาง เพื่อให้ได้ชื่อว่าได้มาถึงบราซอฟแล้วจริง ๆ

Peles Castle



       ปราสาทเปเลส  ตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ กลางป่าสน บนเทือกเขาคาร์เปเทียน ถือเป็นปราสาทที่สวยงามโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง  ในยุโรปตะวันออก  ตัวอาคารจะมีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ แต่ดูเหมือนปราสาทแห่งนี้จะได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ของประเทศเยอรมนีมากที่สุด ภายในปราสาทตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ มีการใช้ไม้แกะสลักงดงามอยู่มากมาย เป็นปราสาทที่รวบรวมงานศิลปะจากประเทศต่าง ๆ ในยุโรป  สร้างขึ้นโดยเจ้าชายคาลอสที่ 1 กษัตริย์แห่งโรมาเนีย ในสมัยศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อน มีการตกแต่งภายในอย่างหรูหรางดงาม อาทิ ห้องตุรกี ที่สร้างไว้เพื่อรับรอง แขกบ้านแขกเมือง ที่มาจาก ตุรกี ในสมัย ออตโตมัน อีกหนึ่งความปราณีตของปราสาทเปเลส  ภายในปราสาทจะมีห้องต่างๆ มากถึง 168 ห้อง แต่คงมีเพียง 35 ห้องเท่านั้น ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมด้านนอก จะมีรูปปั้น คนสำคัญ วางไว้เป็นระยะ รวมถึงรูปปั้นของเจ้าชายคาลอสผู้สร้างปราสาท


Bran Castle




      ปราสาทบราน หรือ ปราสาทแดร็กคิวล่า ปราสาทนี้ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่บนภูเขาเพื่อเป็นที่ป้องกันระหว่างชายแดนแคว้นวอลลัคเทียและทรานซิลวาเนีย

      ปราสาทบรานเป็นปราสาทหินทาสีขาวหม่นสูง 200 ฟุต ตั้งอยู่บนผาหินสูงจนสามารถมองเห็นเมืองบรานได้ทั้งเมือง มีหอคอย มีห้องหลายห้อง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

      ส่วนที่ปราสาทแห่งนี้โด่งดังในฐานะที่พักของแดร็กคูล่านั้น ก็เป็นเพราะหนังสือ Dracula ของนักเขียนชาวไอริชที่ชื่อ Bram Stoker ที่ใช้ปราสาทบรานแห่งนี้เป็นฉากของนวนิยาย และต่อมาฮอลลีวู้ดได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ทำให้ชื่อเสียงของแดร็กคูล่า ค้างคาวผีดูดเลือดที่นอนช่วงกลางวันในโลงหิน บนปราสาททรงสูง และเที่ยวออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

      แต่เจ้าชาย วแลด เทเปส (Vlad Tepes)ผู้เคยครอบครองปราสาทเห็นนี้ ไม่ได้เป็นค้างคาวผีที่ออกล่ามนุษย์เพื่อดูดเลือด แต่เป็นนักรบที่เก่งกาจ ดุร้าย เหี้ยมโหด และกระหายสงคราม จนเป็นที่เลื่องลือว่ากระหายเลือดกิตติศัพท์ความโหดร้ายของเจ้าชายมาจากพฤติกรรมแปลกๆ ของพระองค์ เช่น เมื่อจับศัตรูได้จะทรมานศัตรูด้วยการจับใส่ลงไปในหม้อน้ำมันที่ตั้งไฟจนเดือดบ้างเผาทั้งเป็นบ้าง 
และวิธีทรมานศัตรูที่เหี้ยมโหดที่สุดก็คือ เอาไม้หลาวเสียบที่ก้นของศัตรูทะลุไปจนถึงไหล่ แล้วปักไม้เสียบศัตรูไว้ที่หน้าปราสาทจนกว่าจะตายคาไม้หลาว นอกจากนั้นเจ้าชายยังชอบกินอาหารที่เป็นเนื้อสดๆ และกินต่อหน้าศัตรูที่ดิ้นรน กระเสือกกระสนด้วยความเจ็บปวดทรมานบนไม้หลาวนั้นอีกด้วย

      แต่กระนั้นปัจจุบันเพราะชื่อเสียงของแดร๊กคูล่านี่แลหะที่นำเงินมหาศาลจากการเที่ยวชมปราสาทมาให้คนโรมาเนีย และปราสาทบารนก็ยังถือว่าเป็นปราสาทที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง


Black church




       โบสถ์ดำ หรือที่รู้จักในนาม "BLACK CHURCH" ที่มีชื่อเสียง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 ซึ่งจัดเป็นโบสถ์ที่มีศิลปะโกธิคที่ใหญ่ที่สุด สาเหตุที่เรียกว่าที่เรียกว่าโบสถ์ดำ ก็เพราะว่าลักษณะภายนอกที่ถูกไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ.1689 ทำให้คราบดำจากเขม่าได้ไปเกาะที่ผนังโบสถ์ จนเป็นสีดำทะมึน ทางรัฐบาลประเทศโรมาเนียจึงทิ้งให้อยู่ในลักษณะนี้ เพื่อให้เป็นจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ ภายในโบสถ์มีพรมที่ถักทอด้วยมือของชาวเติร์กแขวนอยู่ทั่วระเบียงโดยรอบ ซึ่งทำให้มีสีจัดจ้านและสามารถช่วยทำให้โบสถ์มีสีสันสดใสขจัดความมืดภายในโบสถ์ไป และนอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระแม่มารีและนักบุญคนอื่นๆตั้งอยู่แทบทุกแห่ง ภายในโบสถ์


Cozia Monastery




       วิหารโคเซีย ได้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1386 ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมที่เกี่ยวกับพระเยซูและนักบุญในคริสตศาสนามากมาย ซึ่งมีความงดงามมาก และเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว และในปัจจุบันวิหารแห่งนี้ยังคงใช้ในการประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์และศาสนกิจของ ผู้ที่มานับถือศาสนาคริสต์


Palace of Paliament



            อาคารรัฐสภา อาคารนี้ถือเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป แต่ถ้าในระดับโลกแล้วก็เป็นรองเพียงแค่ตึกเพนตากอนของอเมริกาเท่านั้น อาคารนี้มีห้องมากว่า 2,000ห้อง ใช้เวลาสร้างนานถึง 5 ปี โดยใช้สถาปนิกถึง 700 คน และแรงงานถึง 30,000 คน ผลัดกันทำงานเป็นช่วงเวลา 3 กะ อาคารนี้มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะภายนอกที่สูงใหญ่ตระการตา


 National Treasure Of Romania



         พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หรือ พิพิธภัณฑ์สมบัติแห่งชาติโรมาเนีย “NATIONAL TREASURE” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความเก่าแก่เป็น สถานที่ที่เก็บสมบัติอันล้ำค่าของพระมหากษัตริย์แห่งโรมาเนียในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎเพชร, เครื่องประดับเพชรและอัญมณีล้ำค่าต่างๆ ตลอดจนเครื่องราชอิสริยภรณ์ เป็นต้น ในแต่ละยุคสมัย ทำให้นักท่องเที่ยว ได้ความรู้ เกี่ยวกับประเทศโรมาเนียมากขึ้นจากการเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

Muzeul Satului, Herastrau Park



          พิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน  เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของยุโรป ตั้งอยู่ริมทะเลสาบภายในสวนสาธารณะ Herastrau Park ณ กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ซึ่งมีสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่สร้างด้วยไม้ ดิน และหิน เรียงรายอยู่ริมทะเลสาบ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเห็นเป็นจุดเด่นชัดของ พิพิธภัณฑ์
          ภายในพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย บ้านเรือนอายุนับร้อยปีจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศโรมาเนีย ซึ่งได้ถูกรื้อถอนและ นำมาประกอบขึ้นใหม่บนพื้นที่กว่าแสนตารางเมตร แบ่งเป็น ๖ เขตตามภูมิภาคท้องถิ่น ได้แก่ Transylvania, Banat, Muntenia, Oltenia, Dobrogea และ Moldova ลักษณะของบ้านในแต่ละเขตจะสอดคล้องตามสภาพภูมิอากาศของแต่ละท้องถิ่น หลังคาบ้านในเขตภูเขาที่หนาวเย็นอย่าง Transylvania จะมุงด้วยฟางและสูงชันเพื่อป้องกันไม่ให้หิมะและฝนค้างบนหลังคา ส่วนบ้านใน Dobrogea ซึ่งเป็นเขตอบอุ่นบริเวณลุ่มแม่น้ำดานูบและทะเลดำ จะมุงด้วยไม้แต่จะไม่ชันมาก
         นอกจากนี้พื้นที่ในแต่ละส่วนจะแสดงถึงวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ท้องถิ่นผ่านองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบบ้านเรือน รั้ว ซุ้มประตู ที่มีลายแกะสลัก โบสถ์ โรงนา เพิงเก็บหญ้าแห้งคอกสัตว์ เครื่องมือทำไร่ทำนา และอุปกรณ์ผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคตามภูมิปัญญาท้องถิ่นเช่น เตาผิง กังหัน บ่อน้ำ เครื่องมือทอผ้า อุปกรณ์ผลิตชีส (เนยแข็ง)
            เมื่อนักท่องเที่ยวได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมในบ้านแต่ละหลัง จะเห็นเครื่องเรือนที่จัดวางอยู่ ทั้งหม้อ ไห พรม ผ้าห่ม ผ้าทอ ชั้นวางจานชาม รวมทั้งของตกแต่ง มีรายละเอียดและเอกลักษณ์น่าสนใจไม่แพ้รูปแบบอาคาร แสดงถึงการผสมผสานอันลงตัวระหว่างความสวยงามและการใช้งาน บ้านโบราณและสิ่งจัดแสดงต่างๆ เหล่านี้ได้มาจากการศึกษาค้นคว้าและรวบรวมเป็นเวลาราว ๑๐ ปี ของศาสตราจารย์ Dimitrie Gusti จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๙ จึงได้เริ่มสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์นี้ขึ้น นับว่าเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมและประเพณีที่น่าสนใจมาก นอกจากส่วนจัดแสดงทั่วไปแล้ว บางโอกาสยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การสาธิตงานฝีมือท้องถิ่น กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ความรู้ในการเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ ตลอดจน ได้ความประทับใจกลับไปไม่รู้ลืม

Romania Glass Street



              เป็นถนนที่มีร้านค้าขายเครื่องแก้วมากมาย ทั้งเครื่องแก้วที่ผลิตจากการเป่า, คริสตัล, เครื่องแก้วที่ได้จากการเจียรนัย  ในรูปแบบหลากหลายทั้งสไตล์โมเดิลและสไตล์โบฮีเมียนที่มีชื่อเสียง แต่ละร้านมีสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นสินค้าตกแต่งบ้านหรือของฝากมากมาย





วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประเทศญี่ปุ่น

Japan




 เป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีทะเลญี่ปุ่นกั้น ส่วนทางทิศเหนือ ติดกับประเทศรัสเซีย มีทะเลโอค็อตสค์ เป็นเส้นแบ่งแดน ตัวอักษรคันจิของชื่อญี่ปุ่นแปลว่า ถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์ จึงทำให้บางครั้งถูกเรียกว่า ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย
ญี่ปุ่นมีเนื้อที่กว่า 377,930 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอันดับที่ 61 ของโลก หมู่เกาะญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดก็คือเกาะฮนชู ฮกไกโด คีวชู และชิโกกุ ตามลำดับ เกาะของญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นหมู่เกาะภูเขา ซึ่งในนั้นมีจำนวนหนึ่งเป็นภูเขาไฟ เช่นภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ เป็นต้น ประชากรของญี่ปุ่นนั้นมีมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก คือประมาณ 128 ล้านคน เมืองหลวงของญี่ปุ่นคือกรุงโตเกียว ซึ่งถ้ารวมบริเวณปริมณฑลเข้าไปด้วยแล้วจะกลายเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีประชากรอยู่อาศัยมากกว่า 30 ล้านคน
สันนิษฐานว่ามนุษย์มาอาศัยในญี่ปุ่นครั้งแรกตั้งแต่ยุคหินเก่า การกล่าวถึงญี่ปุ่นครั้งแรกปรากฏขึ้นในบันทึกของราชสำนักจีนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากจีนในหลายด้าน เช่นภาษา การปกครองและวัฒนธรรม แต่ในขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จึงทำให้ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาจนปัจจุบัน อีกหลายศตวรรษต่อมา ญี่ปุ่นก็รับเอาเทคโนโลยีตะวันตกและนำมาพัฒนาประเทศจนกลายเป็นประเทศที่ก้าวหน้าและมีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชียตะวันออก หลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการปกครองโดยการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ใน พ.ศ. 2490
ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ โดยมีจีดีพีสูงเป็นอันดับสามของโลกในปี พ.ศ. 2553 ญี่ปุ่นเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ จี 8 โออีซีดี และเอเปค และมีความตื่นตัวที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ ญี่ปุ่นมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดี


Tokyo Imperial Palace



เป็นพระราชวังของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชิโยะดะ กรุงโตเกียว ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียว ภายในพระราชวังประกอบด้วยพระราชมนเทียร พระตำหนัก (宮殿 Kyūden) ของพระราชวงศ์ พิพิธภัณฑ์ในพระองค์ สำนักพระราชวัง และสวนขนาดใหญ่
พระราชวังนี้แต่เดิมเป็นที่ตั้งของปราสาทเอะโดะ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของโชกุนตระกูลโทะกุงะวะ แต่พระราชวังเดิมถูกระเบิดทำลายลงไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และต่อมาในปี ค.ศ. 1964 ก็ได้รับการบูรณะ ซึ่งตัวพระราชวังมีขนาดที่ดินทั้งหมด 3.41 ตารางกิโลเมตร ซึ่งในภาวะฟองสบู่อสังหสริมทรัพย์ของญี่ปุ่นในทศวรรษที่ 1980 มูลค่าของพระราชวังโตเกียวนั้นมีมูลค่าสูงมากกว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาเสียอีก

Sensoji Temple



หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ เป็นวัดพุทธในย่านอะสะกุสะ เขตไทโต โตเกียว เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว แรกเริ่มเคยเป็นวัดในสายเทนได ต่อมาได้แยกเป็นอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณติดกับวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอาซากุสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต
วัดเซนโซเป็นสถานที่จัดเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว เทศกาลมีระยะเวลา 3-4 วัน ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างนี้ถนนใกล้เคียงจะปิดการจราจรตั้งแต่เช้าจนถึงหัวค่ำ
ที่ทางเข้าวัดมีประตูขนาดใหญ่ เรียกว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) หรือ "ประตูอสุนี" บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ที่มีรูปสายฟ้าและเมฆเขียนด้วยสีดำและแดง ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจำนวนมาก เดินทางมาเยี่ยมชมวัดเซนโซ บริเวณรอบๆวัดจึงมีร้านค้าขายสินค้าและอาหารพื้นเมืองญี่ปุ่นมาวางขายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ถนนนากามิเสะ ซึ่งทอดยาวตั้งแต่ประตูสายฟ้าไปจนถึงบริเวณวัด สองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆขายของที่ระลึกต่างๆ เช่น พัด ภาพวาดแผ่นไม้ ชุดกิโมโน เสื้อคลุมแบบต่างๆ ม้วนภาพเขียน ขนมหวานพื้นเมือง ไปจนถึงหุ่นยนต์ของเล่น เสื้อยืด หรือของประดับโทรศัพท์มือถือ
ตู้บริจาคใบโต ไกด์แนะนำว่าให้โยนเหรียญบริจาคลงไป และควรจะบริจาคเป็นเหรียญที่มีเลข 5 ทั้ง 5 เยน 50 เยน หรือ 500 เยน ซึ่งให้ความหมายที่ว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ในบริเวณวัดยังมีสวนที่เงียบสงบ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาให้เป็นสวนแบบญี่ปุ่นไว้ได้อย่างดี

Harajuku



         ฮาราจูกุ เป็นศูนย์รวมของเด็กวัยรุ่น ที่แต่งหน้า แต่งตัว กันแบบที่เรียกได้ว่าหลุดโลก มาอวดโฉมกัน โดยในวันอาทิตย์เด็ก เหล่านี้จะมารวมตัวกัน มีทั้งแนว แฟนตาซี ปีศาจ คิขุอาโนเนะน่ารัก ๆ (แนวนี้ชอบ อิอิ ) เป็นสีสันให้กับถนนสายนี้รับรองว่าใครมีโอกาสได้มาที่ฮาราจูกุละก็ไม่เบื่อแน่นอน เอาล่ะมาพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งดีกว่าที่ชื่อดังก็คงมี ถนนทาเคชิตะ ( Takeshita Dori ) และถนนโอโมโตะซานโดะ (Omotosando) มาดูกันว่าแต่ละที่เป็นอย่างไงจะได้รู้ว่าควรไปช้อปตรงไหน

Takeshita Dori



           ทาเคชิตะ ( Takeshita Dori ) เป็นถนนเล็กๆ หน้าสถานีฮาราจูกุ ที่ถนนสายนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของวันรุ่น ทั้งร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ มีให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะแบบน่ารัก เปรี้ยว แม้กระทั้งแบบหลุดโลกก็มีหลุดแบบคิดว่าเพื่อน ๆ คงไม่กล้าใส่แน่นอน แต่ถ้าใครกล้าก็ถ่ายรูปตัวเองมาให้ดูบ้างนะคับอยากเห็น


          เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของถนนสายนี้ คือ เครป ที่ถนนสายนี้จะมีร้านเครปเยอะมาก ขอบอกก่อนเลยไม่เหมือนที่ขายที่ประเทศไทยแน่นอน บอกเลยว่าอร่อยกว่าเยอะ มีหน้าให้เลือกเยอะมาก มาถึงแล้วก็ลองหน่อยล่ะกัน ในวันหยุดถนนสายนี้คนจะเยอะมาก แต่คิดว่าเพื่อน ๆ คงไม่เบื่อ เพราะจะมีวัยรุ่นญี่ปุ่นน่ารัก ๆ เดินกันเต็มถนนเหมือนกัน

Omotosando


         ถนนโมโตะซานโดะ (Omotosando) เป็นอีกสายหนึ่งที่วัยรุ่นจะมาแต่งตัวอวดโฉมกันแต่จะต่างกันตรงที่จะออกแนวสวย หล่อ ดาราญี่ปุ่นที่น่ารัก  ๆ ก็มาจากแถวนี้เหมือนกัน ไงก็แต่งตัวให้ดูดีไว้นะเผื่อฟลุคความสวยความหล่อไปเตะตาแมวมองอาจจะมีดังได้นะ    และด้วยที่ว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบร์นเนมหรู ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้าง ลาฟอเร่ห์ ( Laforet Harajuku ) ห้างที่สูง 7 ชั้นมีร้านเสื้อผ้ามากกว่า 150 ร้าน หรือจะเป็น Omotosando Hill ช๊อปปิ้งมอลล์ที่มีร้านขายแฟชั่นราคาแพง อาหาร ภัตตาคารหรู ร้านเสริมสวย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Louis Vuitton,Cristian Dior,Channel,Gucci ก็อยู่ที่นี่ครบเลย ถนนสายนี้จึงเหมาะมากสำหรับหนุ่มสาวที่มีตังค์ 


      Rainbow Bridge




เป็นสะพานแขวนที่ทอดข้ามทางตอนเหนือของอ่าวโตเกียว เชื่อมระหว่างย่านชิบะอุระกับย่านโอไดบะในเขตมินะโตะ กรุงโตเกียว สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2536 (ค.ศ. 1993)
สะพานมีความกว้าง 570 เมตร มีถนนสองชั้นเพื่อรองรับเส้นทางการจราจร 3 สาย ชั้นบนเป็นทางด่วนมหานครหมายเลข 11 สายโอไดบะ ส่วนชั้นล่างเป็นเส้นทางหมายเลข 357 และสายยุริคะโมะเมะ
บนสะพานมีทางเดินเท้าทั้งสองฝั่ง คือ ฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ฝั่งเหนือจะเห็นทิวทัศน์ของชายฝั่งโตเกียวตอนในและโตเกียวทาวเวอร์ ส่วนฝั่งใต้จะมองเห็นอ่าวโตเกียว และบางครั้งอาจมองเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย สะพานนี้ไม่อนุญาตให้รถจักรยานและรถจักรยานยนต์ใช้เส้นทาง เสาสูงที่รองรับสะพานทาด้วยสีขาว เพื่อให้กลมกลืนกับท้องฟ้าเหนือโตเกียวตอนกลางที่มองเห็นจากโอไดบะ บนเส้นลวดขึงสะพานจะติดหลอดไฟไว้ ซึ่งจะเปลี่ยนสีระหว่างสีแดง ขาว และเขียวในทุกคืน โดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บไว้ในเวลากลางวัน

tokyo disneyland



โตเกียวดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกของดิสนีย์แห่งแรกที่สร้างขึ้นภายนอกสหรัฐอเมริกา เปิดให้บริการในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2526 ก่อสร้างโดยวอลต์ดิสนีย์อิเมจจิเนียร์ริง ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับดิสนีย์แลนด์ที่แคลิฟอร์เนียและแมจิกคิงดอมที่ฟลอริดา ดำเนินงานโดยบริษัทโอเรียนทัลแลนด์คอมปานี ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์จากเดอะวอลต์ดิสนีย์ ทั้งโตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซี ถือเป็นสวนสนุกเพียงแห่งเดียวที่วอลส์ดิสนีย์มิได้เป็นเจ้าของกิจการ
สวนสนุกแบ่งออกเป็นเจ็ดสวนสนุกย่อย เช่น เวิร์ลด์บาซาร์, แอดเวนเจอร์แลนด์, เวสเทิร์นแลนด์, แฟนตาซีแลนด์, และทูมอโรว์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีสวนสนุกย่อยอีกสองแห่งคือ คริกเตอร์คันทรี, และมิกกี้ตูนทาวน์ ในปี 2009 โตเกียวดิสนี์แลนด์มีจำนวนผู้เข้าชมประมาณ 13.65 ล้านคน จัดอยู่ในอันดับที่สามของสวนสนุกดิสนีย์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดรองจากแมจิกคิงดอมที่ฟลอริดา และดิสนีย์แลนด์ที่แคลิฟอร์เนีย

Sapporo Clock Tower



         เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้ ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองซัปโปะโระ เมืองใหญ่ที่สุดของจังหวัดฮกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ออกแบบด้วยศิลปะแบบอเมริกัน เป็นอาคารทรงตะวันตกแห่งหนึ่ง ในจำนวนน้อยที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ เป็นที่รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของเมือง และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศแทบทุกคน ซึ่งนาฬิกาบนหอยังคงเดินอย่างเที่ยงตรง และมีเสียงระฆังในทุกชั่วโมง


      Osaka Castle



เป็นจุดเด่นของเมืองโอซะกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่เป็นที่นิยม และเป็นสัญลักษณ์ของโอซะกะ ปราสาทนี้ประกอบขึ้นด้วยโครงสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซะกะจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่นได้เลย
สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของเสือ ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วยทองคำ
หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซะกะ

Umeda Sky Building



         เป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยตึกที่สูงถึง 173 เมตร ทำให้สามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน และบรรยากาศรอบๆเมืองที่งดงามได้ บนดาดฟ้าของตึกซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมความงามของเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน ที่ชั้น 39 ของตัวอาคารจะมีสวนลอยฟ้า (Floating Garden) ที่เปิดให้เข้าชมโดยเสียค่าธรรมเนียม 700 เยน ที่ชั้นล่างสุดของตัวอาคารจะมีตลาด Takimi Koji ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี


         Tokyo Tower




        ที่สูงเสียดฟ้า โครงเหล็กกล้าทาด้วยสีแดงและขาว ได้สร้างเสร็จในปี 1958 สร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับส่งสัญญาณโทรทัศน์ และหวังให้ผู้พบเห็นรู้สึกเหมือนได้ชมหอไอเฟลของปารีส นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิว จากมุมสูงของโตเกียวได้ที่จุดชมวิวของหอโตเกียวทาวเวอร์แห่งนี้ ตึกนี้สูง 333 เมตร ก่อสร้างด้วยเหล็กสีส้ม

        โตเกียวทาวเวอร์นับเป็นจุดสัญลักษณ์ที่หลายคนที่ไปเที่ยวเมืองโตเกียวแล้วต้องไปเยี่ยมชม โตเกียวทาวเวอร์นั้นตั้งพุ่งทะยานเสียดฟ้าอยู่ทางขอบฟ้าด้านใต้ สถาปัตยกรรมทาสีแดงขาวชิ้นนี้สร้างเสร็จในปี 1958 เพื่อทำการส่งสัญญาณโทรทัศน์ และหวังให้ผู้พบเห็นรู้สึกเหมือนกันได้ชมหอไอเฟลที่ปารีส และหอแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวอันแสนวิเศษ แต่ละชั้นประกอบไปด้วย

ชั้น 1 Tokyo Tower Aquarium  เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีปลามากกว่า 50,000 ตัว และกว่า 800 สายพันธุ์เลยทีเดียว  ชั้น และชั้น เป็นแหล่งรวมร้านขายของมากมาย ร้านอาหาร และร้านน้ำชา ในชั้นนี้สามารถหาซื้อของที่ระลึกของโตเกียว และญี่ปุ่น เพื่อซื้อเป็นของฝากได้ที่นี่ และยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านด้วย
ชั้น 3 Tokyo Tower Carnival  
ชั้นนี้มีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง สามารถเดินชมได้ โดยจะเป็นหุ่นจำลองของบุคคลคนสำคัญของโลก  "โซนพิศวง (Mysterious Walking Zone)" ที่นี่เราสามารถพบกับเทคโนโลยีแบบภาพ 3 มิติ ล้ำสมัย ตื่นตาตื่นใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ชั้น 4 Tokyo Tower Trick Art Gallery  
คือห้องจัดแสดงภาพศิลปะ และเพลิดเพลินกับภาพในระบ 3D Government Information Display Center (Forest of Information)มีห้องจัดแสดงแนะนำเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ จัดโชว์ในรูปแบบวีดีโอ เพื่อความบันเทิง ห้องจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับสถิติ (Statistics Plaza) เรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่นำเสนอผ่านวีดีโอ และเกมส์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจของผู้มาเยี่ยมชม
         ที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียวที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี มีแสงไฟสว่างจ้าไปทั่วจนเห็นได้ชัดในตอนกลางคืน จากหลอดไฟจำนวน 164 ดวง ตั้งอยู่เขตมินาโตะคุโตเกียว เปิดทำการ 9.00-20.00 น. ไม่มีวันหยุด


      Mount Fuji




       เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซึโอะกะและจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดโตเกียว โดยในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นจากโตเกียวได้ ในปัจจุบันภูเขาได้ถูกจัดโดยนักวิทยาศาสตร์อยู่ในลักษณะของภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ ระเบิดครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2250 (ค.ศ. 1707) ยุคเอะโดะ

       Hiroshima Peace Memorial Park



         อนุสาวรีย์และเปลวไฟแห่งสันติภาพ อนุสาวรีย์สร้างเป็นรูปตัวยูคว่ำสะท้อนบ้านหลังคามุงจากสมัยโบราณของญี่ปุ่น บรรจุหีบศิลาพร้อมรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์และคำจารึกว่า "จงเข้าสู่นิทราอย่างสงบ ความผิดพลาดมิอาจเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม" จากอนุสาวรีย์คุณจะมองเห็นเปลวไฟแห่งสันติภาพและอะตอมิคโดม มีรูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเด็กหญิงผู้หนึ่งที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดเนื่องจากกัมมันตภาพรังสี เธอเชื่อว่าถ้าสามารถพับนกกระเรียนได้ 1,000 ตัวก็จะไม่ตาย แต่แล้วเธอก็สิ้นใจขณะพับนกได้ 954 ตัว เธอก็คือ ซาดาโกะ ที่เรารู้จักกันนั่นเอง เด็กนักเรียนทั่วประเทศจะพากันน้ำพวงหรีดที่พับด้วยนกกระเรียนมาสวมรอบคอรูปปั้นเสมอ





         

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประเทศฝรั่งเศส

France
Paris(ปารีส)




      ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone) เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศ ประเทศฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยยึดอุดมการณ์จากปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมือง

      เคยเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศจักรวรรดินิยมที่มีอาณานิคมในครอบครองมากที่สุดในโลก แผ่อาณาเขตตั้งแต่แอฟริกาตะวันตกจนถึงเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม ภาษาและการเมืองการปกครองของดินแดนนั้น ๆ ประเทศฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลกประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 82 ล้านคนต่อปี ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอีกด้วย ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ เป็นสมาชิกประชาคมผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโลก จีแปด นาโต้และสหภาพละติน ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 360 หัวรบและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 59 แห่ง

The Grand Louvre




      เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลกและยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส

Palace of versailles




       เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วย

Place Charles de Gaulle




      อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอ เลตวล (ฝรั่งเศสArc de triomphe de l'Étoile) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม "จัตุรัสแห่งดวงดาว" (Place de l'Étoile) อยู่ทางทิศตะวันตกของช็องเซลีเซ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "แกนกลางอันเก่าแก่" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไปยังชานกรุงปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌ็อง ชาลแกร็งในปี พ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1

The Holy Chapel




      เป็นโบสถ์น้อยของนิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ที่กรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส เป็นสิ่งก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมกอทิก แซ็งต์-ชาแปลอาจจะถือกันว่าเป็นงานชิ้นที่งดงามที่สุดของสถาปัตยกรรมแรยอน็องซึ่งเป็นสมัยหนึ่งของสถาปัตยกรรมกอทิก

Eiffel Tower




       หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
      หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้างส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น
      เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีส และหากไม่นับรวมเสากระจายคลื่น หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดอันดับสองในฝรั่งเศส รองจากสะพานมีโย

Palace of Fontainebleau




        เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ราว 55 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นพระราชวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดพระราชวังหนึ่งของฝรั่งเศส สิ่งก่อสร้างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นงานที่สร้างขึ้นและต่อเติมเปลี่ยนแปลงโดยพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสหลายพระองค์ ส่วนที่ก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นส่วนที่สร้างโดยพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 “พระราชวังฟงแตนโบล” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1981


Mont(ม็องช์)

Le Mont-Saint-Michel



        คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยงยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย

Loir-et-Cher(ลัวเรแชร์)


National Domain of Chambord




      เป็นวังที่ตั้งอยู่ที่บนฝั่งแม่น้ำลัวร์ในช็องบอร์ในจังหวัดลัวเรแชร์ ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังช็องบอร์เป็นวังที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดวังหนึ่งในโลกจากลักษณะสถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ของสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะผสานระหว่างการก่อสร้างแบบยุคกลางของฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมคลาสสิกของอิตาลี